5 คำถามสำคัญก่อนเลือกแบตเตอรี่โซล่าร์สำหรับบ้านของคุณ

Anna Ben-David
Content Writer / Anna Ben-David
05-12-2023

เจ้าของบ้านหลายคนที่สนใจติดตั้งระบบโซล่าร์ หรือผู้ที่ใช้โซล่าร์อยู่แล้ว อาจกำลังมองหาแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์เสริมขั้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม ลดการพึ่งพาพลังงานจากโครงข่ายไฟฟ้า เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าเสมือนจริง (Virtual Power Plant ) ในท้องถิ่น หรือเพื่อให้บ้านของคุณมีไฟฟ้าใช้ยามไฟดับ แบตเตอรี่กำลังกลายเป็น "อุปกรณ์เสริมที่จำเป็น" สำหรับระบบโซล่าร์ แต่การทำความเข้าใจความแตกต่างของแบตเตอรี่โซล่าร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนในระบบโซล่าร์เซลล์ของคุณ ด้วยเหตุนี้ ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับแบตเตอรี่สำหรับบ้านของคุณ รวมถึงคำศัพท์เพิ่มเติมท้ายบทความเพื่อช่วยให้คุณคุ้นเคย!

Battery for Home

แบตเตอรี่ของ SolarEdge สำหรับบ้านรวมกับระบบ SolarEdge Home PV และเครื่องชาร์จ EV

พลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน มีประโยชน์ต่อเราอย่างไร?

บ้านที่มีระบบโซล่าร์เซลล์ หลายคนกำลังมองหาการติดตั้งแบตเตอรี่เพิ่มเติม เนื่องด้วยเหตุผลดังนี้:

  • สำรองไฟฟ้ายามไฟดับ: การติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยให้ไฟฟ้าในบ้านติดสว่างยามไฟดับ ดังนั้น สำหรับเจ้าของบ้านหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไฟฟ้ามักจะดับบ่อย การติดตั้งแบตเตอรี่พร้อมระบบสำรองไฟ (Backup Interface) เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นยังคงทำงานได้แม้ไฟดับ
  • ประหยัดค่าไฟฟ้า: แบตเตอรี่ช่วยกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินที่ผลิตได้ในตอนกลางวัน ไว้ใช้ในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่ค่าไฟฟ้าแพง ช่วยลดการดึงไฟฟ้าจากระบบโครงข่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าไฟผันผวน หรือพื้นที่ที่ใช้ระบบคิดอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลา (Time-of-Use) การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่กักเก็บไว้ ย่อมช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้
  • เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต: เนื่องจากเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทำความร้อน เครื่องปรับอากาศ หรือการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในบ้านเพิ่มสูงขึ้น ระบบโซล่าร์เซลล์ควบคู่กับแบตเตอรี่ ช่วยให้คุณบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างยืดหยุ่น ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
  • สิทธิประโยชน์จากภาครัฐและโอกาสทางการเงิน: หลายพื้นที่ในปัจจุบันมีนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและเงินอุดหนุน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน นอกจากนี้ โอกาสทางรายได้รูปแบบใหม่ ยังช่วยให้แบตเตอรี่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทไฟฟ้าสามารถดึงพลังงานที่กักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ มาใช้สนับสนุนระบบโครงข่ายไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่กักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แทนการดึงไฟฟ้าจากระบบโครงข่าย ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนฟุตพรินท์ของคุณ นำไปสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

 

2. ระบบ DC-Coupled หรือ AC-Coupled แบบไหนเหมาะกับฉัน?

AC และ DC หมายถึง วิธีการเชื่อมต่ออินเวอร์เตอร์โซล่าร์เซลล์เข้ากับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน แผงโซล่าร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าตรง (DC) และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานแบบกระแสไฟฟ้าตรง ดังนั้น ระบบโซล่าร์เซลล์แบบ DC-Coupled จึงมีประสิทธิภาพในการใช้กับแบตเตอรี่มากกว่า เนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกส่งตรงไปยังแบตเตอรี่โดยไม่ต้องแปลงผ่านอินเวอร์เตอร์ 

ในระบบ AC-Coupled พลังงานจะถูกแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) ผ่านอินเวอร์เตอร์ จากนั้น แปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าตรง (DC) เพื่อเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ก่อนจะแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) อีกครั้งเพื่อใช้งานในบ้าน  ในแต่ละขั้นตอนของการแปลงพลังงาน ย่อมมีการสูญเสียพลังงานเกิดขึ้น 

ในระบบ DC-Coupled พลังงานจะถูกแปลงเพียงครั้งเดียว ทำให้กระบวนการทั้งหมดมีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่า

Battery for Home

ดังนั้น ระบบแบตเตอรี่แบบ DC-Coupled ช่วยให้สามารถกักเก็บและนำพลังงานไปใช้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ พลังงานที่อาจสูญเสียไปจากการผลิตมากเกินไป (Clipped Energy) ยังสามารถถูกส่งตรงไปยังแบตเตอรี่ได้ ช่วยให้แบตเตอรี่มีการชาร์จเต็มก่อนช่วงหัวค่ำ

3. ระบบกักเก็บพลังงานมีมาตรการความปลอดภัยอย่างไร?

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในระบบกักเก็บพลังงานภายในบ้าน อย่างเช่น แบตเตอรี่ SolarEdge Home Battery  มีความคล้ายกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น การติดตั้งและใช้งานอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรอง เป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก เพื่อความปลอดภัย ระบบแบตเตอรี่สำหรับบ้านของ SolarEdge ได้รับการออกแบบด้วยมาตรการความปลอดภัยหลายชั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ เมื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ทั้งหมดจากผู้ผลิตเดียวกัน เช่น ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์จาก SolarEdge Home จะได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ แบตเตอรี่ SolarEdge Home Battery 400V เป็นหนึ่งในแบตเตอรี่สำหรับใช้งานในบ้านรุ่นแรก ๆ ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐาน UL9540A ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัยในระดับของตัวเครื่อง ช่วยให้สามารถติดตั้งภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย

SolarEdge Home Battery 400V

SolarEdge Home Battery 400V เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย UL9540A ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสำหรับระบบกักเก็บพลังงานและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

4. อะไรคือปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาที่บ้านของฉันสามารถใช้งานไฟจากแบตเตอรี่สำรองได้?

ระยะเวลาที่บ้านของคุณสามารถอยู่ได้ด้วยไฟฟ้าสำรองจากแบตเตอรี่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนแบตเตอรี่ ความจุของแบตแต่ละลูก ปริมาณไฟฟ้าที่บ้านของคุณใช้ และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่กักเก็บไว้ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงไว้คือ แม้ว่าแบตเตอรี่ที่ใช้ร่วมกับระบบสำรองไฟ (Backup Interface) จะมีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายไฟฟ้าและทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงทำงานได้ระหว่างไฟดับ แต่ก็อาจมีข้อจำกัดในการจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่กินไฟสูงเป็นเวลานาน

ภาระไฟฟ้าแบบไม่ต่อเนื่อง (Intermittent loads)  vs. ภาระไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง (Continuous loads)

เพื่อประเมินระยะเวลาที่บ้านสามารถอยู่ได้ด้วยไฟจากแบตเตอรี่สำรอง หรือจำนวนแบตเตอรี่ที่เหมาะสมสำหรับบ้าน เจ้าของบ้านจำเป็นต้องพิจารณารูปแบบการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คาดว่าจะไฟดับและระยะเวลาการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิด คำถามสำคัญคือ พวกเขาต้องการสำรองไฟฟ้าสำหรับทั้งบ้าน หรือแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น? เพื่อให้เข้าใจการสำรองไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น เราจำเป็นต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่าง ภาระไฟฟ้าแบบไม่ต่อเนื่อง (Intermittent loads) กับ ภาระไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง (Continuous loads) ภาระไฟฟ้าแบบไม่ต่อเนื่อง คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิด ปิด สลับกันไปตลอดทั้งวัน เช่น ไฟ เตา พัดลม และเครื่องปรับอากาศ ภาระไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น Wi-Fi ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ - ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องแม้ไฟจะดับ

ดังนั้น สำหรับครอบครัวที่มี 4-5 คน การติดตั้งแบตเตอรี่ SolarEdge Home 400V เพียง 1 ลูก ควบคู่กับ SolarEdge Home Backup Interface จะช่วยให้สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไม่ต่อเนื่อง 2-3 เครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง 2-3 เครื่อง  เป็นเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง แต่การประหยัดพลังงานภายในบ้านตลอดช่วงไฟดับยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นพร้อมกัน สำหรับครอบครัวที่สามารถประหยัดพลังงานได้อย่างเคร่งครัด แบตเตอรี่ 1 ลูก พร้อมระบบสำรองไฟอาจเพียงพอ แต่หากต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น ต้องการสำรองไฟฟ้าสำหรับทั้งบ้านเป็นเวลานานขึ้นในกรณีไฟดับ

ดูวิดีโอด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม:

5. ฉันสามารถเลือกการตั้งค่าการทำงานของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับความต้องการของฉันได้หรือไม่?

ได้! เจ้าของระบบที่ติดตั้งแบตเตอรี่  SolarEdge Home สามารถใช้แอปพลิเคชั่น mySolarEdge ในการกำหนดค่าการทำงานของแบตเตอรี่ให้ตรงกับความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้า โดยมีตัวเลือกการตั้งค่า 3 แบบ ดังนี้:

  • ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้คุ้มค่าที่สุด (Maximize Self-consumption): การเลือกโหมดนี้ เจ้าของบ้านสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตได้จากระบบโซล่าร์เซลล์ ไปใช้ภายในบ้านและชาร์จแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากโครงข่าย เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ใช้ระบบคิดค่าไฟแบบอัตราคงที่ (Flat-rate) 
  • โหมดเวลาการใช้งาน (Time-of-Use Mode): เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ค่าไฟฟ้าผันผวนตามช่วงเวลา การตั้งค่าโหมดนี้ ช่วยลดค่าไฟฟ้าโดยระบบจะทำการชาร์จแบตเตอรี่จากพลังงานแสงอาทิตย์หรือไฟฟ้าจากโครงข่าย อัตโนมัติ ในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าต่ำ เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ภายในบ้านในช่วงเวลาที่ค่าไฟฟ้าสูง
  • โหมดสำรองไฟฟ้าเท่านั้น (Backup Only): สำหรับบ้านที่มีแบตเตอรี่และระบบสำรองไฟ (Backup Interface) เจ้าของบ้านสามารถเลือกโหมดนี้เพื่อเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ไว้ใช้ยามไฟดับ
Battery for Home

โซลูชั่นการจัดการพลังงานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น สามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานของบ้าน เพื่อสร้างแผนการใช้พลังงานประจำวันที่ชาญฉลาด ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการคิดอัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาการใช้งาน (Time-of-Use) เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา หรืออัตราค่าไฟฟ้าแบบไดนามิก (Dynamic Rates) ซึ่งกำลังได้รับการนำร่องใช้งานในบางพื้นที่ของเนเธอร์แลนด์

คุณรู้จัก "แบตเตอรี่" หรือเปล่า?

การทำความเข้าใจคำศัพท์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้าน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ต่อไปนี้คือคำอธิบายเบื้องต้นของศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้าน:

  • ประสิทธิภาพการใช้พลังงานแบบรอบเที่ยว (Round-trip efficiency): คำศัพท์นี้มักจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์แทนปริมาณพลังงานที่สามารถดึงออกมาจากแบตเตอรี่ เมื่อเทียบกับปริมาณพลังงานที่ใช้ในการชาร์จ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานแบบรอบเที่ยวที่สูงกว่า แสดงถึงการสูญเสียพลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ประโยชน์สูงสุดจากแบตเตอรี่ของคุณ
  • ความจุไฟฟ้าทั้งหมด: ความจุไฟฟ้าทั้งหมดนิยมวัดเป็นหน่วยกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) บ่งบอกถึงปริมาณพลังงานไฟฟ้าสูงสุดที่แบตเตอรี่สามารถกักเก็บไว้ได้ ยิ่งความจุไฟฟ้าทั้งหมดมีค่าสูง ยิ่งหมายความว่าเจ้าของบ้านสามารถกักเก็บพลังงานไว้ใช้ได้นานมากขึ้น
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่: หมายถึงระยะเวลาที่แบตเตอรี่สามารถกักเก็บและจ่ายพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่ประสิทธิภาพจะลดลงหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ โดยทั่วไปวัดเป็นจำนวนรอบการชาร์จหรือเป็นปี SolarEdge รับประกันความจุพลังงานของแบตเตอรี่ SolarEdge Home เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยแบตเตอรี่จะสามารถรักษาประสิทธิภาพการเก็บพลังงานไว้ได้อย่างน้อย 70% ตลอดระยะเวลาดังกล่าวตามเงื่อนไขที่ใช้งานตามคู่มือการใช้งานและเงื่อนไขการรับประกัน
  • ปริมาณพลังงานที่แบตเตอรี่จ่ายได้ : คำว่า "ปริมาณพลังงานที่แบตเตอรี่จ่ายได้" หมายถึง ปริมาณพลังงานที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายออกมาได้ตลอดช่วงเวลาที่กำหนด  โดยทั่วไปวัดเป็นหน่วยวัตต์ อายุการใช้งานเน้นที่ความทนทานในระยะยาว ปริมาณพลังงานที่แบตเตอรี่จ่ายได้สะท้อนประสิทธิภาพและความจุของแบตเตอรี่ในขณะนั้น ทั้งสองปัจจัยนี้มีความสำคัญสำหรับการประเมินประสิทธิภาพโดยรวมและความน่าเชื่อถือของแบตเตอรี่สำหรับใช้งานในบ้าน
  • พลังงานที่ใช้งานได้: พลังงานที่ใช้งานได้ คือ ส่วนของความจุไฟฟ้าทั้งหมดของแบตเตอรี่ (โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 80-100% ของความจุทั้งหมด) ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่
  • กำลังงานสูงสุด: คือ พลังงานไฟฟ้าสูงสุดที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยทั่วไปวัดเป็น กิโลวัตต์ (kW) เช่นเดียวกับความจุพลังงาน ฟังก์ชั่นนี้มีความสำคัญสำหรับการจ่ายไฟฟ้าสำรองในกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านมีการใช้พลังงานไฟฟ้ากระชากสูงเป็นเวลาสั้น ๆ เช่น การเปิดเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องอบผ้า ตัวอย่างเช่น  หากแบตเตอรี่ของคุณมีพลังงานสูงสุด 7.5 กิโลวัตต์ (นาน 10 วินาที) แต่จากุซซี่ของคุณต้องการพลังงานไฟฟ้า 8 กิโลวัตต์เพื่อเริ่มทำงาน คุณจะไม่สามารถใช้แบตเตอรี่เพื่อเปิดใช้งานจากุซซี่ได้
  • พลังงานจ่ายออกต่อเนื่อง: พลังงานจ่ายออกต่อเนื่อง คือพลังงานไฟฟ้าที่แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟฟ้าออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลานาน (ต่างจากพลังงานสูงสุด ซึ่งอาจจะมีค่าสูงกว่า แต่จ่ายไฟได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ) ฟังก์ชั่นนี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าจำนวนแบตเตอรี่ที่ติดตั้งสามารถรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าของบ้านได้อย่างเพียงพอ ตัวอย่างเช่น SolarEdge Home Battery 400V มีพลังงานจ่ายออกต่อเนื่อง 5 กิโลวัตต์ ซึ่งหมายความว่า แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟฟ้า 5,000 วัตต์ให้กับบ้านของคุณได้อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานาน
  • ระบบสำรองไฟฟ้า (Backup Interface): ระบบสำรองไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสำรองไฟฟ้าให้กับบ้านของคุณ ทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ หากไม่มีระบบสำรองไฟฟ้า แบตเตอรี่สามารถใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายในบ้าน (Self-consumption) หรือเชื่อมต่อกับโครงการโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant) เท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้สำรองไฟฟ้าในกรณีไฟฟ้าดับได้

 

พลิกโฉมอนาคตแห่งพลังงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่สำรอง

พลังงานแสงอาทิตย์ก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กลายเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ประหยัดคุ้มค่าและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง แต่เนื่องจากแสงอาทิตย์มีตามช่วงเวลา การแก้ปัญหาด้วยระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่  ควบคู่กับระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่  โดยช่วยเชื่อมโยงระหว่างปริมาณพลังงานที่ผลิตได้กับความต้องการใช้งาน ขณะที่เราเปลี่ยนผ่านสู่โลกอนาคตที่มุ่งเน้นการลดคาร์บอน  ระบบแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้าน ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant) ในขณะที่พลังงานสะอาดยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำรองสำหรับใช้ในบ้าน  จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับเทคโนโลยีและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเราในโลกที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

บล็อกที่เกี่ยวข้อง