โซล่ารูฟ (Solar Roof) น่ารู้! หนึ่งทางเลือกในการประหยัดพลังงาน

โซล่าเซลล์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกที่หลายคนคุ้นเคยและให้ความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โซล่ารูฟ" หรือ "โซล่ารูฟท็อป" ซึ่งเป็นวิธีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ เนื่องจากสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้ มาทำความรู้จักกับโซล่ารูฟ ตั้งแต่ความหมาย รูปแบบ และประโยชน์ของใช้งานระบบโซล่ารูฟ
โซล่ารูฟ คืออะไร

โซล่ารูฟ (Solar Roof) คือ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านเรือนหรืออาคาร โดยใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Panel) เป็นตัวรับพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการติดโซล่าร์เซลล์บ้านหรืออาคาร โดยสามารถนำพลังงานดังกล่าวมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารได้โดยตรง ซึ่งระบบนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ได้แก่ แผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์สำหรับแปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ในบ้าน มิเตอร์วัดปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้และใช้ไป และแบตเตอรี่โซล่าเซลล์สำหรับกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในเวลากลางคืนหรือเมื่อไม่มีแสงแดด
หลังคาแบบไหนเหมาะสำหรับติดตั้งโซล่ารูฟท็อป
โซล่ารูฟสามารถติดตั้งกับหลังคาได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ดังนี้
-
หลังคาทรงจั่ว
หลังคาทรงจั่วเป็นหลังคาสองด้านทรงสูงที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย สามารถรับแสงแดดและระบายความร้อนได้ดี โดยหลังคาประเภทนี้สามารถติดตั้งโซล่ารูฟได้ทั้งสองด้าน ซึ่งแนะนำให้เลือกติดตั้งบนด้านที่รับแสงมากกว่าเป็นหลัก ส่งผลให้เป็นทรงหลังคาที่สามารถติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ได้ง่าย
-
หลังคาปั้นหยา
หลังคาปั้นหยามีพื้นที่ 4 ทิศทาง พื้นที่กว้าง จึงรับแรงปะทะจากลมได้ดี สามารถติดแผงโซล่าเซลล์ได้ทุกทิศ ทั้งนี้ หลังคาปั้นหยาโดยมากมีความลาดเอียงน้อยกว่าหลังคาทรงจั่ว ส่วนในการติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคา ควรเลือกหนึ่งหรือสองทิศที่รับแสงมากที่สุด
-
หลังคาเพิงแหงน
หลังคาเพิงแหงนมีพื้นที่เยอะและกว้าง มีทิศทางของหลังคาทิศทางเดียว มีความลาดเอียงน้อยกว่าทรงจั่วและปั้นหยา สามารถติดแผงโซล่าเซลล์ได้ในทิศเดียวกันทั้งหลังคา เหมาะสำหรับการติดตั้งระบบขนาดใหญ่ หรือมีแผงจำนวนมาก
นอกจากนี้ แผงโซล่าเซลล์ยังสามารถติดตั้งบนลานดาดฟ้าของอาคารหรือโรงงานต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ดาดฟ้ากว้าง
โซล่าเซลล์มีกี่รูปแบบ

โดยทั่วไป ระบบโซล่าเซลล์สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ตามลักษณะการเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้า ดังนี้
1. ระบบโซล่าเซลล์ On Grid
โซล่าเซลล์ออนกริดเป็นระบบโซล่าเซลล์ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้ในบ้านหรืออาคารแทนพลังงานจากการไฟฟ้าได้โดยตรง ซึ่งระบบโซล่าเซลล์ On Grid สามารถติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ ระบบโซล่าเซลล์ออนกริดช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากการไฟฟ้า จึงลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ดี โดยเฉพาะครัวเรือนหรือสถานที่ที่มักใช้พลังงานมากในช่วงเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืน สามารถใช้ไฟจากการไฟฟ้าได้ตามปกติ (ในกรณีที่ไม่ได้ติดตั้งแบตเตอรี่)
ระบบโซล่าเซลล์ออนกริดมีข้อดีหลักตรงที่ใช้ต้นทุนติดตั้งต่ำกว่าระบบอื่น คืนทุนเร็วได้เร็วกว่าระบบอื่น และเปิดโอกาสให้เจ้าของสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้การไฟฟ้าได้ แต่มีข้อเสียหลัก คือ ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เมื่อไฟดับ และยังต้องพึ่งพาระบบไฟฟ้าหลักในเวลากลางคืนหรือเมื่อแสงแดดไม่เพียงพอ
2. ระบบโซล่าเซลล์ Off Grid
ระบบโซล่าประเภทนี้พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากการผลิตของแผงโซล่าเซลล์ โดยไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า และอาจติดตั้งแบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานไว้ใช้ในยามที่ไม่มีแสงแดด จึงเป็นระบบที่นิยมในพื้นที่ห่างไกลจากสายส่งจากการไฟฟ้า
ระบบโซล่าเซลล์ Off Grid สามารถช่วยให้บ้านหรืออาคารที่ห่างไกลสายส่งจากการไฟฟ้าได้มีกระแสไฟฟ้าใช้ และหากติดตั้งกับแบตเตอรี่ ก็สามารถสำรองไฟฟ้าสำหรับใช้งานในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม เมื่อติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ อาจส่งผลให้มีค่าบำรุงรักษาแบตเตอรี่ที่ต้องคำนึงเพิ่มเติม
3. ระบบโซล่าเซลล์ Hybrid
ระบบ Hybrid เป็นการผสมผสานระหว่างระบบ On Grid และ Off Grid โดยมีทั้งการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าและมีแบตเตอรี่สำรองไฟ สามารถจ่ายพลังงานจากระบบโซล่าหรือจากแบตเตอรี่ และยังใช้ไฟจากการไฟฟ้าร่วมด้วยได้
ระบบโซล่าเซลล์ชนิดนี้จึงเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ทั้งจากแผงโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ และระบบไฟฟ้าหลัก และมีไฟฟ้าใช้แม้ไฟดับ อีกทั้งยังสามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็เสียเปรียบต่อระบบอื่นๆ ตรงที่ต้องใช้ต้นทุนการติดตั้งค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องอาศัยแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนี้ ระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ยังเป็นระบบที่ซับซ้อน และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการออกแบบและติดตั้ง
โซล่ารูฟมีข้อดีอย่างไร

โซล่ารูฟหรือระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคามีข้อดีมากมาย ทั้งต่อผู้ใช้งานและสภาพแวดล้อม ดังนี้
1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
โซล่ารูฟช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากระบบหลัก ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในระยะยาว
ผู้ใช้สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบและปริมาณการใช้ไฟฟ้า
2. สร้างรายได้
ในกรณีที่ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่ใช้ สามารถขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือการไฟฟ้านครหลวงได้ ซึ่งเป็นรายได้เสริมประสิทธิภาพอีกทางหนึ่งให้กับเจ้าของบ้านหรือเจ้าของธุรกิจที่ติดตั้งระบบโซล่ารูฟ
3.มีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ระบบโซล่าเซลล์เป็นพลังงานสะอาด กระตุ้นการใช้พลังงานหมุนเวียน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจก พร้อมลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของมลพิษหรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จากทั้งหมดที่กล่าวมา โซล่ารูฟนับเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าไฟฟ้า ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนสามารถได้รับประโยชน์จากการติดตั้งระบบโซล่ารูฟ แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง แต่ด้วยผลตอบแทนในระยะยาวที่มีประสิทธิภาพทั้งในแง่การประหยัดค่าไฟฟ้าและการสร้างรายได้เสริม การลงทุนในโซล่ารูฟจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การเลือกอุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการติดตั้งโซล่ารูฟ
อยากติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เลือกผลิตภัณฑ์โซล่าเซลล์จาก SolarEdge
SolarEdge Technologies เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน โดยใช้วิศวกรรมและนวัตกรรมระดับโลกในการพัฒนาโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับกลุ่มลูกค้าในภาคที่อยู่อาศัย ภาคพาณิชย์ และภาคสาธารณูปโภค SolarEdge นำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการผลิต การจัดเก็บ การจัดการ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทพัฒนาและผลิตอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ Power Optimizer ระบบจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ระบบจัดเก็บพลังงาน และบริการโครงข่ายไฟฟ้า
เทคโนโลยี DC-Optimized ของ SolarEdge ถูกติดตั้งในบ้านหลายล้านหลังในกว่า 140 ประเทศ และมากกว่า 50% ของบริษัท Fortune 100 มีการใช้งานเทคโนโลยีของ SolarEdge บนหลังคาของพวกเขา SolarEdge มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่โครงข่ายพลังงานแบบกระจายที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งเจ้าของบ้านและภาคธุรกิจ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้การรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาดอีกด้วย
กรอกแบบฟอร์ม คลิก
LINE Official: SolarEdge Thailand
ติดตามข่าวสารใหม่ๆ จาก SolarEdge
Facebook: SolarEdge Technologies Inc.
Instagram: @solaredgepv
X: @SolarEdgePV
LinkedIn: SolarEdge Technologies