โซล่ารูฟ (Solar Roof) น่ารู้! หนึ่งทางเลือกในการประหยัดพลังงาน

Content Writer / SolarEdge Thailand
16-12-2024
โซล่ารูฟ

โซล่าเซลล์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกที่หลายคนคุ้นเคยและให้ความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โซล่ารูฟ" หรือ "โซล่ารูฟท็อป" ซึ่งเป็นวิธีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ เนื่องจากระบบหลังคาโซล่าร์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้ มาทำความรู้จักกับโซล่ารูฟ ตั้งแต่ความหมาย ข้อดี-ข้อเสีย รูปแบบ และประโยชน์ของใช้งานระบบโซล่ารูฟ

โซล่ารูฟ คืออะไร

โซล่ารูฟ

โซล่ารูฟ (Solar Roof) คือ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านเรือนหรืออาคาร โดยใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Panel) เป็นตัวรับพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการติดโซล่าร์เซลล์บ้านหรืออาคาร โดยสามารถนำพลังงานดังกล่าวมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารได้โดยตรง ซึ่งระบบนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก ได้แก่ แผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์สำหรับแปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ในบ้าน มิเตอร์วัดปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้และใช้ไป และแบตเตอรี่โซล่าเซลล์สำหรับกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในเวลากลางคืนหรือเมื่อไม่มีแสงแดด

หลังคาแบบไหนเหมาะสำหรับติดตั้งโซล่ารูฟท็อป

โซล่ารูฟสามารถติดตั้งกับหลังคาได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ดังนี้

  • หลังคาทรงจั่ว

หลังคาทรงจั่วเป็นหลังคาสองด้านทรงสูงที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย สามารถรับแสงแดดและระบายความร้อนได้ดี โดยหลังคาประเภทนี้สามารถติดตั้งโซล่ารูฟได้ทั้งสองด้าน ซึ่งแนะนำให้เลือกติดตั้งบนด้านที่รับแสงมากกว่าเป็นหลัก ส่งผลให้เป็นทรงหลังคาที่สามารถติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ได้ง่าย

  • หลังคาปั้นหยา

หลังคาปั้นหยามีพื้นที่ 4 ทิศทาง พื้นที่กว้าง จึงรับแรงปะทะจากลมได้ดี สามารถติดแผงโซล่าเซลล์ได้ทุกทิศ ทั้งนี้ หลังคาปั้นหยาโดยมากมีความลาดเอียงน้อยกว่าหลังคาทรงจั่ว ส่วนในการติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคา ควรเลือกหนึ่งหรือสองทิศที่รับแสงมากที่สุด

  • หลังคาเพิงแหงน

หลังคาเพิงแหงนมีพื้นที่เยอะและกว้าง มีทิศทางของหลังคาทิศทางเดียว มีความลาดเอียงน้อยกว่าทรงจั่วและปั้นหยา สามารถติดแผงโซล่าเซลล์ได้ในทิศเดียวกันทั้งหลังคา เหมาะสำหรับการติดตั้งระบบขนาดใหญ่ หรือมีแผงจำนวนมาก

นอกจากนี้ แผงโซล่าเซลล์ยังสามารถติดตั้งบนลานดาดฟ้าของอาคารหรือโรงงานต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ดาดฟ้ากว้าง

โซล่ารูฟต่างจากโซล่าเซลล์อย่างไร

โซล่ารูฟต่างจากโซล่าเซลล์อย่างไร หากพูดในบริบทของระบบผลิตพลังงานไฟฟ้า หลายคนอาจทั้งสองสลับกันไป โดยมักหมายถึงระบบโซล่าเซลล์ แต่ในความจริงมีความหมายแตกต่างกันอย่างชัดเจน

โซล่ารูฟหมายถึงอะไร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โซล่ารูฟ (Solar Roof) หมายถึง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งอยู่บนหลังครัวเรือนหรืออาคารต่างๆ โดยเป็นการกล่าวถึงระบบและองค์ประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ หรืออื่นๆ 

โซล่าเซลล์หมายถึงอะไร

โดยความหมายแล้ว เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) หรือ Photovoltaic Cell คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถดูดซับแสงจากดวงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน ที่ประกอบกันเป็นแผงโซล่าเซลล์อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกันดีนั่นเอง

โซล่าเซลล์มีกี่รูปแบบ

โซล่ารูฟ

โดยทั่วไป ระบบโซล่าเซลล์สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ตามลักษณะการเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้า ดังนี้

1. ระบบโซล่าเซลล์ On Grid

โซล่าเซลล์ออนกริดเป็นระบบโซล่าเซลล์ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้ในบ้านหรืออาคารแทนพลังงานจากการไฟฟ้าได้โดยตรง ซึ่งระบบโซล่าเซลล์ On Grid สามารถติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ ระบบโซล่าเซลล์ออนกริดช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากการไฟฟ้า จึงลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ดี โดยเฉพาะครัวเรือนหรือสถานที่ที่มักใช้พลังงานมากในช่วงเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืน สามารถใช้ไฟจากการไฟฟ้าได้ตามปกติ (ในกรณีที่ไม่ได้ติดตั้งแบตเตอรี่)

ระบบโซล่าเซลล์ออนกริดมีข้อดีหลักตรงที่ใช้ต้นทุนติดตั้งต่ำกว่าระบบอื่น คืนทุนเร็วได้เร็วกว่าระบบอื่น และเปิดโอกาสให้เจ้าของสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้การไฟฟ้าได้ แต่มีข้อเสียหลัก คือ ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เมื่อไฟดับ และยังต้องพึ่งพาระบบไฟฟ้าหลักในเวลากลางคืนหรือเมื่อแสงแดดไม่เพียงพอ

2. ระบบโซล่าเซลล์ Off Grid

ระบบโซล่าประเภทนี้พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากการผลิตของแผงโซล่าเซลล์ โดยไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า แต่มีการติดตั้งแบตเตอรี่และระบบสำรองไฟโซล่าเซลล์ สำหรับเก็บพลังงานไว้ใช้ในยามที่ไม่มีแสงแดด จึงเป็นระบบที่นิยมในพื้นที่ห่างไกลจากสายส่งจากการไฟฟ้า 

ระบบโซล่าเซลล์ Off Grid สามารถช่วยให้บ้านหรืออาคารที่ห่างไกลสายส่งจากการไฟฟ้าได้มีกระแสไฟฟ้าใช้ และหากติดตั้งกับแบตเตอรี่ ก็สามารถสำรองไฟฟ้าสำหรับใช้งานในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม เมื่อติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ อาจส่งผลให้มีค่าบำรุงรักษาแบตเตอรี่ที่ต้องคำนึงเพิ่มเติม

3. ระบบโซล่าเซลล์ Hybrid

ระบบ Hybrid เป็นการผสมผสานระหว่างระบบ On Grid และ Off Grid โดยมีทั้งการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าและมีแบตเตอรี่สำรองไฟ สามารถจ่ายพลังงานจากระบบโซล่าหรือจากแบตเตอรี่ และยังใช้ไฟจากการไฟฟ้าร่วมด้วยได้

ระบบโซล่าเซลล์ชนิดนี้จึงเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ทั้งจากแผงโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ และระบบไฟฟ้าหลัก และมีไฟฟ้าใช้แม้ไฟดับ อีกทั้งยังสามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็เสียเปรียบต่อระบบอื่นๆ ตรงที่ต้องใช้ต้นทุนการติดตั้งค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องอาศัยแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนี้ ระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ยังเป็นระบบที่ซับซ้อน และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการออกแบบและติดตั้ง

โซล่ารูฟมีข้อดีอย่างไร

โซล่ารูฟ

โซล่ารูฟหรือระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคามีข้อดีมากมาย ทั้งต่อผู้ใช้งานและสภาพแวดล้อม ดังนี้

1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

โซล่ารูฟช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากระบบหลัก ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในระยะยาว ผู้ใช้สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบและปริมาณการใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง EV Charger ที่บ้านที่เชื่อมต่อกับระบบโซล่าเซลล์ เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า  โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย

2. สร้างรายได้

ในกรณีที่ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่ใช้ สามารถขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือการไฟฟ้านครหลวงได้ ซึ่งเป็นรายได้เสริมประสิทธิภาพอีกทางหนึ่งให้กับเจ้าของบ้านหรือเจ้าของธุรกิจที่ติดตั้งระบบโซล่ารูฟ

3.มีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ระบบโซล่าเซลล์เป็นพลังงานสะอาด กระตุ้นการใช้พลังงานหมุนเวียน ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจก พร้อมลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของมลพิษหรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โซล่ารูฟมีข้อเสียอย่างไร 

แม้ว่าระบบหลังคาโซล่าร์จะมีข้อดีมากมายในการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็มีข้อเสียโซล่ารูฟที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจติดตั้ง เพื่อให้การลงทุนในระบบโซล่าเซลล์เป็นไปอย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการ

1. เงินทุนเริ่มต้นสูง

การใช้เงินลงทุนเริ่มต้นติดตั้งระบบที่สูงเป็นข้อกังวลหลักของหลายคนที่สนใจโซล่ารูฟ โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับขนาดของไซต์การติดตั้งและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น แบตเตอรี่โซล่าเซลล์สำหรับกักเก็บพลังงาน เครื่องสำรองไฟฟ้าสำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับระบบ ไม่ว่าจะเป็น แผงโซล่าเซลล์ สายไฟที่ต้องใช้ในระบบ รวมไปถึงค่าบริการในการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์

2. ข้อจำกัดเกี่ยวกับหลังคา

หลังคา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนติดตั้ง ทั้งโครงสร้างของหลังคา ที่ต้องมีความแข็งแรงมากพอในการรองรับน้ำหนักของแผงโซล่าเซลล์ และอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องติดตั้งบนหลังคา รวมถึงต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งแผงในจำนวนที่เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้า หากพื้นที่หลังคาไม่เพียงพอ อาจต้องมีการเสริมโครงสร้างเพิ่มเติมซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 

3. ต้องดูแลทำความสะอาดสม่ำเสมอ

การดูแลระบบโซล่าเซลล์นั้นคล้ายคลึงกับบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป เจ้าระบบควรดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เพราะฝุ่นละออง ใบไม้ หรือสิ่งสกปรกที่สะสมบนแผงจะลดประสิทธิภาพการรับแสงแดดของแผงโซล่าเซลล์นั้นๆ หรืออาจลดประสิทธิภาพของทั้งระบบ อีกทั้งควรหมั่นตรวจสอบสภาพและสถานะการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ว่ายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่มีข้อขัดข้องใดๆ โดยหากหลังคาเข้าถึงได้ยาก อาจต้องใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ หรือปรึกษาบริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อการบำรุงรักษาที่เหมาะสม

จากทั้งหมดที่กล่าวมา โซล่ารูฟนับเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าไฟฟ้า ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนสามารถได้รับประโยชน์จากการติดตั้งระบบโซล่ารูฟ แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง แต่ด้วยผลตอบแทนในระยะยาวที่มีประสิทธิภาพทั้งในแง่การประหยัดค่าไฟฟ้าและการสร้างรายได้เสริม การลงทุนในโซล่ารูฟจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยั่งยืน

ทั้งนี้ การเลือกอุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และเหมาะกับความต้องการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการติดตั้งโซล่ารูฟ

การใช้ไฟจากโซล่ารูฟรูปแบบใดควรมีแบตเตอรี่และเครื่องสำรองไฟ

หลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อโซล่ารูฟแล้วควรติดตั้งแบตเตอรี่และเครื่องสำรองไฟเพิ่มเติมไหม ทั้งนี้คำตอบขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้พลังงานและความต้องการ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 

กลุ่มแรกที่ควรพิจารณา คือ กลุ่มผู้ใช้ไฟจากโซล่ารูฟที่ผลิตได้ไม่หมด มีพลังงานไฟฟ้าหลงเหลือ จึงแนะนำให้ติดตั้งแบตเตอรี่โซล่าเซลล์และเครื่องสำรองไฟเพิ่มเติม เพื่อกักเก็บไฟฟ้าในส่วนที่เหลือไว้ใช้งานในเวลากลางคืน หรือไฟดับ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มาก

กลุ่มที่ 2

กลุ่มที่ต้องการความเสถียรของไฟฟ้าสูง ต้องการหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเหตุไฟดับ โดยสามารถติดตั้งแบตเตอรี่และเครื่องสำรองไฟ Back Up Interface แล้วตั้งค่าให้สำรองไฟเป็นหลักก่อน ตามสถิติจำนวนชั่วโมงที่ไฟดับ

กลุ่มที่ 3

กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาณพลังงานสะอาดให้กับธุรกิจ เช่น หากมีพื้นที่หลังคาเหลือ สามารถขยายขนาดโซล่ารูฟเพื่อนำมาชาร์จในแบตเตอรี่ แล้วนำมาใช้ในช่วงที่แสงอาทิตย์น้อยหรือใช้ในช่วงเวลากลางคืนได้

  • SolarEdge Inverter - อินเวอร์เตอร์อัจฉริยะที่มีความสามารถในการรองรับ DC Oversizing สูงสุดถึง 200%
  • Power Optimizer - อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานสูงสุดถึง 99.5% มาพร้อมเทคโนโลยี MPPT รายแผง
  • SolarEdge Battery - แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไป-กลับสูงสุด 94.5% ด้วยเทคโนโลยี  DC-Coupled อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อร่วมกันได้หลายลูกต่อหนึ่งอินเวอร์เตอร์
  • Backup Interface (สำหรับที่พักอาศัย) - อุปกรณ์ควบคุมระบบสำรองไฟและการตัดการเชื่อมต่อโหลด สามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ของ SolarEdge ได้อย่างไร้รอยต่อ

SolarEdge ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับติดตาม ตรวจสอบ และจัดการการทำงานระบบโซล่าเซลล์อย่างแอป mySolarEdge App สำหรับเจ้าของบ้าน และแพลตฟอร์มมอนิตอริ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจและอุตสาหกรรม

SolarEdge Technologies เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน โดยใช้วิศวกรรมและนวัตกรรมระดับโลกในการพัฒนาโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับกลุ่มลูกค้าในภาคที่อยู่อาศัย ภาคพาณิชย์ และภาคสาธารณูปโภค SolarEdge นำเสนอโซลูชันที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการผลิต การจัดเก็บ การจัดการ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทพัฒนาและผลิตอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ Power Optimizer ระบบจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ระบบจัดเก็บพลังงาน และบริการโครงข่ายไฟฟ้า

เทคโนโลยี DC-Optimized ของ SolarEdge ถูกติดตั้งในบ้านหลายล้านหลังในกว่า 140 ประเทศ และมากกว่า 50% ของบริษัท Fortune 100 มีการใช้งานเทคโนโลยีของ SolarEdge บนหลังคาของพวกเขา SolarEdge มีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่โครงข่ายพลังงานแบบกระจายที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งเจ้าของบ้านและภาคธุรกิจ และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้การรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาดอีกด้วย

 

ติดต่อเรา 

กรอกแบบฟอร์ม คลิก

LINE Official: SolarEdge Thailand

ติดตามข่าวสารใหม่ๆ จาก SolarEdge

Facebook: SolarEdge Technologies Inc.

Instagram: @solaredgepv

X: @SolarEdgePV 

บทความที่เกี่ยวข้อง